การตรวจดีเฟคหรือข้อบกพร่องของบ้านก่อนรับโอนเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากในการตรวจสอบสภาพบ้านใหม่หรือบ้านที่เพิ่งสร้างเสร็จ เพราะเมื่อเจ้าของบ้านได้รับโอนบ้านเรียบร้อยแล้ว การแก้ไขหรือเรียกร้องการซ่อมแซมอาจเป็นเรื่องที่ยุ่งยากหรือเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าที่ควรจะเป็น การตรวจดีเฟคครอบคลุมหลายประเด็น ทั้งด้านโครงสร้าง ความสมบูรณ์ของวัสดุ และการทำงานของระบบต่าง ๆ ภายในบ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้พบเจอปัญหาในภายหลัง ผู้ซื้อบ้านควรมีความรู้พื้นฐานในการตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจว่าบ้านที่ได้รับนั้นพร้อมใช้งานและไม่มีข้อบกพร่องที่อาจจะกลายเป็นปัญหาในระยะยาว นอกจากนี้ยังสามารถจ้างผู้เชี่ยวชาญหรือวิศวกรเข้ามาช่วยตรวจสอบได้หากผู้ซื้อไม่มั่นใจในความละเอียดของการตรวจด้วยตนเอง
สิ่งแรกที่ควรตรวจสอบเมื่อเริ่มการตรวจดีเฟค คือความสมบูรณ์ของโครงสร้างบ้านซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุดที่ส่งผลต่อความปลอดภัยและการใช้งานในระยะยาว เริ่มจากการตรวจสอบผนังพื้นเพดานว่ามีรอยแตกหรือรอยร้าวหรือไม่ รวมไปถึงการตรวจดูแนวของผนังว่าตั้งตรงหรือเอียง นอกจากนี้ควรตรวจสอบพื้นที่ส่วนของหลังคาให้ดีเช่นกันว่ามีการรั่วซึมหรือมีการเชื่อมต่อที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ ในส่วนของประตูหน้าต่างก็ควรตรวจว่าการปิดเปิดราบรื่นและไม่ติดขัด นอกจากนี้ยังต้องดูเรื่องการติดตั้งวงกบให้ได้แนวเรียบร้อย วัสดุที่ใช้มีความแข็งแรงและไม่เกิดรอยแตกร้าวหรือเสื่อมสภาพ
ระบบน้ำและไฟฟ้าต้องตรวจให้ละเอียด
การตรวจสอบระบบไฟฟ้าเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบ เพราะระบบไฟฟ้าในบ้านเป็นเรื่องของความปลอดภัยทั้งในด้านการใช้งานและการป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ ควรเริ่มต้นจากการตรวจสอบแผงควบคุมไฟฟ้าหรือเบรกเกอร์ว่าอยู่ในสภาพดี ทำงานได้ถูกต้อง ไม่มีการเชื่อมต่อที่หลวมหรือผิดพลาด นอกจากนี้ควรเปิดทดสอบสวิตช์ไฟทุกจุดเพื่อดูว่ามีการจ่ายไฟที่เสถียรหรือไม่ ทั้งยังต้องตรวจสอบปลั๊กไฟว่าได้รับการติดตั้งอย่างถูกต้องหรือไม่ สายไฟภายในบ้านต้องไม่เก่าเสื่อมสภาพหรือมีการชำรุด เพราะสิ่งเหล่านี้อาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรหรือไฟไหม้ได้
ส่วนระบบน้ำ ควรตรวจสอบการทำงานของท่อน้ำว่ามีการรั่วซึมหรือไม่ โดยเฉพาะในบริเวณที่เป็นท่อประปาภายในผนังหรือพื้นซึ่งหากมีปัญหาอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรื้อซ่อมแซมที่สูงมาก ตรวจสอบแรงดันน้ำจากก๊อกน้ำและฝักบัวให้แน่ใจว่าใช้งานได้ตามปกติ นอกจากนี้อย่าลืมตรวจสอบระบบระบายน้ำทั้งในห้องน้ำและห้องครัวว่าไม่มีการอุดตัน การติดตั้งสุขภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น อ่างล้างหน้า ชักโครก ต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์และไม่มีการแตกร้าว
ความเรียบร้อยของงานตกแต่งภายใน
นอกจากการตรวจสอบโครงสร้างและระบบพื้นฐานต่าง ๆ แล้ว งานตกแต่งภายในก็เป็นอีกหนึ่งส่วนที่ไม่ควรละเลยในการตรวจดีเฟค การตรวจสอบความเรียบร้อยของการตกแต่งผนัง พื้น และเพดานถือเป็นสิ่งสำคัญ เริ่มจากการสังเกตดูสีผนังว่ามีการทาสีที่เรียบเนียนไม่มีรอยด่างหรือสีลอก รวมไปถึงการตรวจพื้นบ้านว่าปูเรียบร้อย ไม่เป็นคลื่นหรือมีรอยต่อที่ไม่สม่ำเสมอ การติดตั้งบัวพื้นและบัวเพดานควรมีการเข้ามุมและติดตั้งอย่างประณีต
นอกจากนี้ การตรวจสอบเฟอร์นิเจอร์บิลท์อินก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะบ้านหลายหลังอาจมีการติดตั้งเฟอร์นิเจอร์แบบบิลท์อิน เช่น ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางทีวี หรือเคาน์เตอร์ครัว ผู้ซื้อควรตรวจสอบความแข็งแรงของวัสดุและการติดตั้งว่ามีความมั่นคง ไม่โยกคลอน รวมถึงการเปิดปิดบานประตูหรือลิ้นชักต่าง ๆ ว่าราบรื่นหรือไม่ ทั้งนี้การตรวจสอบความเรียบร้อยในส่วนของงานตกแต่งภายในถือเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ซื้อว่าจะได้รับบ้านที่สมบูรณ์และพร้อมใช้งานในระยะยาว
